วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ฤดีภรณ์ อุดธา

♬♩♭ ประวัติค๊าบ♬♩♭

ชื่อ :: ฤดีภรณ์ อุดธา
ชื่อเล่น :: แพตตี้。◕‿◕。
ว/ด/ป เกิด :: 25 ตุลาคม 2532
การศึกษา :: ปี2 คณะวิทยาการจัดการ สาขาโปรแกรมจัดตั้งคณะนิเทศศาสตร์ เอกโฆษณา
ส่วนสูง :: 165 cm.
น้ำหนัก :: 48 k.
สัดส่วน :: 35-27-37
สีผม :: น้ำตาลทองประกายเบญ
สีตา :: น้ำตาล สามารถใส่คอนแทคเลนส์ได้
สีผิว :: ขาวเหลือง

ความสามารถพิเศษ⊹⊱⋛⋋⋌⋚⊰⊹ⓛⓞⓥⓔべ
เต้น Jazz รำไทย เชียร์ลีดเดอร์
ทักษะทางด้านภาษา⊹⊱⋛⋋⋌⋚⊰⊹ⓛⓞⓥⓔべ
ไทย :: อ่าน :: ดีมาก
:: เขียน :: ดีมาก
:: พูด :: ดีมาก
อังกฤษ :: อ่าน :: ดี
:: เขียน :: ดี
:: พูด :: พอใช้

ประวัติการศึกษา
ประถม โรงเรียนพระแม่มารีอุปถัมภ์ สาธร
มัธยมตอนต้น โรงเรียนปากเกร็ด
มัธยมตอนปลาย โรงเรียนธัญรัตน์
ปริญญา ปี2 คณะวิทยาการจัดการ สาขาโปรแกรมจัดตั้งคณะนิเทศศาสตร์ เอกโฆษณา

นิสัยส่วนตัว
ร่าเริง เฮฮา จริงจังในเรื่องงาน และไร้สาระไปวันๆ กินเยอะกินทุกอย่างที่ขว้างหน้า
รักเพื่อนรักพ่อแม่ ใครอย่ามาแตะเชียวนะ!!

วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ตลาดออนไลน์ข้ามชาติเป็นไปได้แค่ไหน..

ขึ้นชื่อว่าตลาดออนไลน์ ย่อมไปได้ทั่วโลกอยู่แล้ว แต่ถ้าถามว่าจะมีซักกี่ผู้ขายในไทยที่ค้าขายให้ชาวต่างชาติเป็นหลัก

ebay มีเครือข่าย30ประเทศทั่วโลก Argentina Australia Austria Belgium Brazil Canada China France Germany Hong Kong India Ireland Italy Korea Malaysia Mexico Netherlands New Zealand Philippines Poland Singapore Spain Sweden Switzerland Taiwan Thailand Turkey United Kingdom United States Vietnam

ซึ่งมีหน้าประเทศไทนรวมอยู่ด้วย การที่จะทำให้ร้านเราติดอันดับ หรือ การที่จะค้าขายข้ามชาตินั้น มีหลักการสำคัญดังนี้

1.ต้องเก่งภาษาอังกฤษ หรือพอไปได้
2.ซื้อสัตย์ เพราะวงการนี้ ปากต่อปาก
3.การตลาดต้องดี สินค้าคุณต้องเด่น
4.คุณภาพ เรื่องสำคัญที่สุด
5.หน้าเวปต้องดึงดูด ภาพสินค้าต้องน่าซื้อ
6.ความตั้งใจที่ขายเพราะผู้ซื้อก็ตั้งใจที่จะซื้อ

นี้ก็เป็นหลักการพื้นฐาน ในการค้าขายข้ามชาติ แต่ถ้าจะเจาะจงคงเป็นการตลาดมากกว่า เพราะถ้าการตลาดคุณดี คุณก็จะสามารถเจาะกลุ่มผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น

ตั้งโจทย์ถามตัวเองก่อน
1. ถนัดสินค้าอะไร
2. ไป search ดูคู่แข่งมากไหม -> ถ้าไม่มาก ไปข้อ 3 ถ้ามากดูว่าจะแข่งไหวไหม -> ถ้าไหวไปข้อ 3 ถ้าไม่ไหวกลับไปข้อ 1 หาสินค้าใหม่
3. ลองลงดู ติดตามผล -> มีคน bid ไหม มีคนดูเยอะไหม ->ถ้าไม่มี หรือคนดูน้อย ลองเช็คดูตั้ง title หรือราคาดีไหม ถ้าไม่ดีแก้ใหม่ ถ้าดีแล้วกลับไปข้อ 1
4. ถ้ามีคน bid มีคนซื้อ ลองลงเพิ่ม ติดตามดูผล -> ขายต่อไม่ได้ กลับไปข้อ 1, ขายได้เรื่อยๆ ลงต่อสะสม fb แล้วไปข้อ 5
5. เพิ่มแบบหรือชนิดสินค้าที่ใกล้เคียงเดิม

พูดง่ายๆ4P หลักการตลาดง่ายๆ บนอีเบย์

ความคิดเห็น
ตลอดออนไลน์ ก็รู้กันอยู่แล้วว่าข้ามชาติ แต่การที่จะมีลูกค้าข้ามชาตินี้ซิเป็นเรื่องยาก เพราะผู้ขายต้องเก่งในหลายๆด้านไม่ว่าจะเป็นภาษา ด้านข่าวสารเพราะต้องติดตามค่าเงินอยุ่ตลอดเวลา ด้านการตลาด และอีกมากมายเพราะเรโลกก้าวไปไว ถ้าตามไม่ทันก็จะล้าหลังทันที

ความคุ้ม หรือ สุ่มเสี่ยง ??

การขายสินค้าบนโลกไซเบอร์ หลายคนอาจถามว่าเอาอะไรมาตัดสิน ว่าเราจะไม่โดนหลอก เราจะได้สินค้าที่ดีมีคุณภาพตามที่ผู้ขายประกาศไว้หรือไม่ ดิฉันขอตอบเลยว่าสิ่งนั้น คือ คุณธรรม แต่สมัยนี้มิจฉาชีพมีเยอะ ไม่ว่าจะเป็นทั้งผู้ค้าหรือผู้ขายก็ตาม ตอนนี้ผู้อ่านคงมีคำถามขึ้นมาแล้วว่า สรุปซื้อขายในebay สิ่งที่ได้คือ ความคุ้ม หรือ สุ่มเสี่ยง !!

อันดับแรกขอผู้ถึงผู้ค้าก่อนนะค่ะ
หัวใจหลักของการขายของที่ดิฉันยึดไว้เป็นอุดมการณ์เผื่อมีประโยชน์ กับใครบ้างไม่มากก็น้อยนะค่ะ
1. ต้องมีความจริงใจต่อลูกค้าของเราและอย่าขาดการติดต่อกับลูกค้าของเราทุกคน เพราะหากลูกค้าประทับใจและชอบที่จะซื้อของกับเราแล้วละก็สิ่งที่เราจะ ได้คือลูกค้าประจำและเป็นการแนะนำปากต่อปากเป็นการช่วยโปรโมทร้านเราไปในตัว วันที่ดิฉันคิดว่าจะประสบความสำเร็จจากการขายได้ ไม่ใช่เป็นวันที่ดิฉันขายของได้นะค่ะ แต่ต้องเป็นวันที่ลูกค้าคนเดิมกลับมาซื้อของกับดิฉันเป็นครั้งที่สอง ทุกๆคนคงเคยรู้สึกนะค่ะว่าบางทีเรายอมจ่ายแพงกว่ากับของที่เหมือนๆกันเพื่อ แลกกับความสบายใจและการบริการ สุดยอดนักขายคือการทำให้ลูกค้าที่ไม่มีใครต้องการมาเป็นลูกค้าที่ดีของเรา
2. ต้องกล้าเสี่ยงที่จะลงทุนและยอมรับได้ถ้าจะขาดทุน อย่าลืมนะค่ะว่าทุกๆการขายมักจะมีการต่อรองกันเกิดขึ้น บางครั้งเราต้องยอมบ้างหากจะรักษาลูกค้าไว้ ซึ่งปัญหาเรื่องขาดทุนผมว่าเราป้องกันได้หากมีการจัดการบัญชีที่ดีพอ
3. การมีหน้าร้านที่ดีและดูสบายตา ดิฉันเชื่อว่าคนที่เข้ามาที่ร้านไม่ต้องการดูเทคนิคการออกแบบร้านของเราว่าเลิศ หรูอลังการมากหรอกค่ะ เขาสนในที่ของของเรามากกว่า อย่าทำให้จุดอื่นในร้านค้าโดดเด่นกว่าสินค้าของเรา
4. และสุดท้ายคือคุณธรรมในการขาย ให้คิดไว้เสนอเลยว่าไม่อยากให้เราเป็นอย่างไร ก็อย่าทำกับคนอื่นอย่างนั้น


มาถึงผู้ชื่อบ้างหล่ะค่ะ
บางท่านอาจเอาความสบายใจเป็นหลัก ยอมซื้อสินค้าแพงกว่าทั้งๆทีสินค้าเหมือนกันทุกอย่าง เพราะไม่อยากโดนหลอกหรือกังวลว่าสินค้าที่ซื้อที่ตลาดออนไลน์นั้นจะมีคุณภาพหรือป่าว จึงตัดสินใจซื้อที่shop หรือตามร้านขายของทั่วไป แต่สำหรับนักช้อปออนไลน์ขาประจำจะมีร้านที่วื้อประจำหรือยอมเสี่ยงวัดใจกันไปเลย ถามว่ามีอะไรพอจะค้ำประกันได้บ้างว่าผู้ซื้อจะได้สินค้าตามที่สั่ง อันดับแรกเลยคือ ชื่อยุเซอร์เนมเจ้าของร้าน เลขบัญชีpaypal ทะเบียนการค้าสำหรับร้านในรูปแบบบริษัท ที่กล่าวมาค่อนข้างจะเป็นหลักค้ำประกันได้ดีเลยทีเดียว ประเด็นที่สอง คงไม่ไรมาก คือซื้อร้านที่มีคนรู้จักแนะนำว่าไว้ใจได้ เท่านั้นเอง

สุดท้ายอยากฝากไว้ว่า ถ้าไม่ลองเสี่ยงแล้วจะรู้ได้หรอว่าไม่คุ้ม ??

ความคิดเห็น
ถ้ามีคุณธรรมพอ ไม่ว่าจะเป้นผู้ซื้อหรือผู้ขาย ก็ย่อยไว้ใจได้ แต่ถ้าไม่มั้นใจอย่าตกลงวื้อขายกันเป้นดีที่สุด เพราะสินค้าไม่ได้มีร้านนั้นร้านเดียว

เลือกจากภาพ หรือจะสู้ สัมผัสด้วยมือ

ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ ย่อมมีทั้งข้อเสียและข้อดี ซื้อขายในโลกไซเบอร์ก็เช่นกัน สินค้าจะดี ถูก สวย เพียงใด แต่จับต้องไม่ได้สัมผัสไม่ได้ ผู้ซื้อก็จะไม่ไว้วางใจในคุณภาพสินค้า

การพัฒนาด้านเทคโนโลยี กฏหมายที่มารองรับ และแนวโน้มความสนใจซื้อขายผ่านอินเตอร์เนตของประเทศเรา จัดว่าช้าถึงช้ามาก เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ

นอกจากจะไม่คุ้นเคยการซื้อออน์ไลน์ ระหว่างกันแล้ว เรายังไม่้แน่ใจเรื่องความปลอดภัยที่จะจ่ายผ่านบัตรเครดิต ฝ่ายผู้ขายนอกจากจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม (ค่้าธรรมเนียมและบริการต่างๆจากธนาคาร) แล้ว การรับเงินย่อมช้าแน่นอน เมื่อเทียบกับการให้โอนเงินสดจากผู้ซื้อโดยตรง ถือเป็นการซื้อขายออนไลน์แบบไทยๆไปก่อนละกัน หากพฤติกรรมของคนไทย เปลี่ยนไปคือ มีความต้องการและสนใจซื้อขายออนไลน์มากขึ้นตามตัว การพัฒนาก็จะตามมาเช่นกัน
ความน่าเชื่อถือของการซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ต ค่อนข้างน้อยกว่า การซื้อขายผ่านทางร้าน เนื่องจากผู้บริโภค สามารถดูสภาพ ของสินค้าได้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ว่าเป็นของแท้ ของเทียม ดีไม่ดี หรือตำหนิ แตกหักหรือไม่ ได้อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น พฤติกรรมของคนไทย ยังไม่ค่อยเชื่อใจ กับการซื้อขายแบบออนไลน์ เลยทำให้การเลือกสินค้า จากอินเตอร์เน็ท ไม่น่าไว้ใจกว่า การซื้อตามร้านค้า ที่เช็คสภาพสินค้าได้..

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ราคาสินค้า ในตลาดออนไลน์ เป็นสินค้า ที่ราคาต่ำกว่า ท้องตลาดทั่วไป เนื่องจากตลาดออนไลน์ เป็นตลาดที่ไม่ต้องเสียภาษี ราคาสินค้าจึงต่ำกว่า แหละนี่ อาจเป็นแรงจูงใจเล็กๆน้อยๆ ที่ทำให้การซื้อขายในตลาดออนไลน์ มีผุ้บริโภคอยู่บ้าง ที่เชื่อใจและไว้ใจ ระบบการซื้อขาย ที่เพียงได้ชมแค่ภาพ


ความคิดเห็น
ถ้าซื้อเพราะราคาถูกแต่คุณภาพไม่ได้ ก็ไม่ไหวนะค่ะ
เพราะเสียทั้งเงินเสียทั้งของ แต่ถ้าซื้อข้างนอกราคาแพงกว่าก็คงไม่ไหวสำหรับเศรษฐกิจแบบนี้ เอาเป็นว่าดูให้ดีสอบถามให้แน่ใจดีกว่าเพราะจะได้ไม่เสียใจภายหลัง

ตลาดซื้อขายหรือแหล่งแฝงกายมิจฉาชีพ

หลายเดือนก่อนเกิดคดีที่เกี่ยวข้องกับการทำ "ธุรกรรมทางอินเตอร์เน็ต" โดยผู้เสียหายได้ใช้บริการ Internet Banking ตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว เมื่อตรวจสอบพบว่า มีผู้ดักข้อมูล โดยใช้โปรแกรม Key Logger ซึ่ง คอยเก็บข้อมูลจากแป้นคีย์บอร์ดขณะใช้งานและส่งผ่านระบบอินเตอร์เน็ตให้กับแฮ กเกอร์ นำข้อมูลที่ได้สวมรอยเป็นผู้ใช้งานเข้าทำธุรกรรมทางการเงิน สร้างความเสียหายมูลค่าไม่น้อย เหตุการณ์นี้สามารถป้องกันได้หากผู้ใช้งานและผู้ให้บริการระบบธุรก รรมออนไลน์ตระหนักและรู้เท่าทันภัยคุกคามตลอดจนเสริมสร้างเทคโนโลยีให้ ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ปัจจุบันแฮกเกอร์ไม่ได้มีเป้าหมายเจาะระบบ เครือข่ายธนาคารหรือผู้ให้บริการธุรกรรมออนไลน์ เพื่อเข้าถึงชั้นความลับของลูกค้าเพียงอย่างเดียว แต่เปลี่ยนเป้าหมายเป็นผู้ใช้งาน (User) อินเตอร์เน็ต ซึ่งเข้าถึงได้ง่ายกว่าแทน โดยอาศัยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์เนื่องจากมีการใช้งานอินเตอร์เน็ตอย่างทั่ว ถึงมากยิ่งขึ้น บางครั้งผู้ใช้งานอาจพยายามดาวน์โหลดโปรแกรมหรือข้อมูลบางอย่างที่แฮกเกอร์ ได้เผยแพร่ไว้ตามเว็บสาธารณะยอดนิยม โดยโปรแกรมดังกล่าวมักมีชื่อที่ดึงดูดให้ดาวน์โหลด เช่น clip ฉาว, โปรแกรมเร่งความเร็ว, โปรแกรม crack serial number, โปรแกรมเกมส์ เป็นต้น เมื่อผู้ใช้งานหลงดาวน์โหลดโปรแกรมดังกล่าวมาติดตั้งในเครื่องอาจมีมัลแวร์ แฝงมากับไฟล์ ทำให้ผู้ใช้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพที่จ้องดักข้อมูลได้

แง่ผู้ใช้งานทั่วไป : ต้องป้องกันภัยคุกคามที่เกิดขึ้นโดยตระหนักรู้และควบคุมพฤติกรรมตนเองในการ ใช้งานอินเตอร์เน็ต บนเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนตัว, ไม่ดาวน์โหลดโปรแกรมที่ไม่มั่นใจในความปลอดภัย, หมั่นดูแลเครื่องคอมพิวเตอร์ให้มีการอัพเดททั้งซอฟต์แวร์ป้องกัน และ Patch, ตั้งรหัสผ่านที่ยากต่อการคาดเดา หากต้องทำธุรกรรมทางอินเตอร์เน็ต เช่น ซื้อสินค้า หรือทำธุรกรรมทางการเงินให้ทำบนเครื่องตนเองที่คิดว่าปลอดภัยแล้ว เลือกช่องทางการใช้งานให้ถูกต้อง เช่นเมื่อ Login ผ่านเว็บไซต์ให้ดูว่าเป็นการผ่าน HTTPS หรือไม่ หากไม่ใช่ก็ไม่ควรใช้ ยิ่งถ้าอยู่ในวง LAN ไม่ว่าจะเป็นร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ หรือบริษัท เพราะอาจมีการดัก User/Password ผ่านระบบเครือข่ายได้และควรเลือกใช้บริการธุรกรรมอินเตอร์เน็ตจากผู้ให้ บริการที่น่าเชื่อถือเท่านั้น

แง่ผู้ให้บริการ : แม้ผู้ให้บริการจะออกแบบระบบเครือข่ายเป็นอย่างดีจนยากที่แฮกเกอร์จะเจาะ ระบบเข้ามาได้แต่แฮกเกอร์สามารถเจาะผ่านทางผู้ใช้บริการได้ และเป็นวิธีที่นิยมใช้ในปัจจุบันด้วยเหตุนี้นอกจากต้องอำนวยความสะดวกแก่ ลูกค้าแล้วผู้ให้บริการยังต้องให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีในการระบุตัวตนผู้ ใช้งาน, ดูแลความปลอดภัยของข้อมูลและวิธีการใช้งานเมื่อลูกค้าต้องทำธุรกรรมผ่านระบบ อินเตอร์เน็ตตลอดจนให้ความรู้แก่ลูกค้าให้รู้เท่าทันภัยคุกคามในปัจจุบัน

ในที่นี้ขอเน้นเรื่องการใช้เทคโนโลยีการพิสูจน์ตัวตนของลูกค้าที่ทำธุรกรรมผ่านอินเตอร์เน็ตซึ่งที่ใช้กันอยู่มี 3 รูปแบบ คือ

สิ่งที่คุณมี (Something you have) เช่น กุญแจไขประตู, บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือระบบ Token เป็นต้น

สิ่งที่คุณรู้ (Something you know) คือ รหัสผ่านหรือชุดตัวเลขเฉพาะ

สิ่งที่คุณเป็น (Something you are) เป็นการพิสูจน์ตัวตนแบบชีวมาตรเช่น ลายนิ้วมือ ระบบรู้จำเสียง ระบบสแกนม่านตา เป็นต้น

สำหรับการทำธุรกรรมทางอินเตอร์เน็ตนั้น การพิสูจน์ตัวตนแบบปัจจัยเดียว (single-factor) อาจไม่รัดกุม และไม่เพียงพอต่อการให้บริการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัว ขึ้น ควบคู่กับความเสี่ยงที่สูงขึ้นเป็นเงาตามตัวจึงควรใช้การพิสูจน์ตัวตนแบบสองปัจจัย (two-factor) ตัวอย่างที่เห็นเด่นชัดคือเครื่องเอทีเอ็มที่ใช้บัตรพลาสติค (สิ่งที่คุณมี) ควบคู่กับหมายเลขเฉพาะสี่หลัก (สิ่งที่คุณรู้) เปรียบเทียบกับการพิสูจน์ตัวตนทางระบบเครือข่ายคือ การใช้ระบบ Token ร่วมกับรหัสผ่านนั่นเอง วิธีนี้จะช่วยยกระดับความปลอดภัยให้สูงขึ้นอีกขั้นและผู้ใช้บริการรายนั้น ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบในการทำธุรกรรมของตนได้ซึ่งระบบที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยให้โครงสร้างด้านความปลอดภัยแข็งแกร่งขึ้นลดปัญหาการฉ้อฉลลงได้อีกทาง หนึ่ง

สำหรับผู้ให้บริการธุรกรรมอินเตอร์เน็ตผ่าน WebApplication ที่ยังไม่ได้จัดทำระบบแบบ two factor ควรมีการเก็บค่าการ Login หน้าเว็บเพื่อ สืบได้ว่าใครเข้ามาใช้บริการบ้าง เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับลูกค้าเช่นเดียวกับกล้องวงจรปิดที่ติดตามตู้ ATM จะทำให้ผู้บริการเก็บบันทึก Log ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ด้วย

มี เรื่องราวทางเทคนิคอีกมากมายที่เจาะลึกถึงการป้องกันภัยคุกคามทางเครือข่าย คอมพิวเตอร์ อย่างไรก็ดี ผู้ให้บริการด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น สถาบันการเงิน, ผู้ประกอบธุรกิจ E-Commerce ควรนำเทคโนโลยีการพิสูจน์ตัวตนแบบ Two-Factor Authentication มาใช้เป็นอย่างน้อย และให้ความรู้แก่ลูกค้าในการทำธุรกรรมผ่านระบบอินเตอร์เน็ต เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อพวกมิจฉาชีพที่นับวันจะมีวิธีการที่ซับซ้อนแยบยล ขึ้นทุกที



ความคิดเห็น
มิจฉาชีพมีมากมาย ไม่ว่าจะเข้ามาด้านไหนควรระวัง อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคน เพราะจะจนใจเอง..สุภาษิตนี้ใช้ได้ดี เพราะการค้าคือการค้า ไม่มีอะไรแน่นอนเพียงแต่ให้คิดว่าอย่าทำกับใครก่อนถ้าไม่อยากให้อย่างนั้นมาถึงเรา

ขายสินค้าบนebayเรื่องง่ายจริง หรือ ยิ่งยุ่งยาก

ในวิกฤติน้ำมันแพงจนกระเป๋าแห้งแบบนี้ นักช้อปที่ชอบเดินทางจับจ่าย คงต้องคิดหนักกันหน่อย การช้อปปิ้งออนไลน์คงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่นักช้อปหันมาใช้บริการ แม้วิธีการซื้อของออนไลน์จะไม่ใช่วิธีการแบบใหม่เพราะมีมาตั้งนานแล้ว แต่CEOของebay ได้วิเคราะห์ว่าด้วยวิกฤติเศรษฐกิจแบบนี้ การซื้อขายออนไลน์จะเติบโตขึ้น และได้รับความนิยมสูงขึ้นยังแน่นอน การซื้อขายในโลกไซเบอร์ไม่เพียงแต่ประหยัดเวลา สินค้ามากมายทั่วทุกมุมโลกต่างวางขายตรงหน้าง่ายๆแค่เพียงคลิ๊ก !!

ธุรกิจ eBay มีลักษณะคล้ายๆ กับกรวยกรองที่ปากด้านบนกว้าง ส่วนก้นด้านล่างแคบ เราต้องพยายามใส่ input ลงไปในปากกรวยให้มากที่สุด เพียงเพื่อจะมี output ออกมาทางก้นกรวยเพียงหนึ่งเดียว ซึ่งก็คือคนที่ชนะประมูลสินค้านั่นเอง
สิ่งแรกที่นักขายจะต้องทำก็คือ การทำให้มีคนค้นพบสินค้าที่ตัวเองลิสต์ขึ้นไปให้มากที่สุด เปรียบเสมือนการใส่ input ลงไปในปากกรวยให้มากๆ เพื่อที่จะได้มีคนหลุดเข้ามาถึงก้นกรวยซึ่งก็คือการตัดสินใจประมูลสินค้าให้ มากขึ้น เมื่อมีผู้ประมูลมาก ราคาของสินค้าก็จะขยับตัวสูงขึ้นเอง

วิธีการทำให้สินค้าถูกค้นพบมากที่สุดก็คือการเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่หัวข้อสินค้าให้เหมาะสม เนื่องจาก eBay ให้พื้นที่ใส่หัวข้อสินค้าเพียง 55 ตัวอักษร จึงต้องใช้พื้นที่นี้ให้คุ้มค่ามากที่สุด ผู้ขายจะต้องพยายามหาคีย์เวิร์ดที่อธิบายสินค้าของเราได้ดีที่สุด และต้องเป็นคีย์เวิร์ดที่ลูกค้าส่วนใหญ่เลือกใช้เวลาต้องการค้นหาสินค้าด้วย

อีกวิธีหนึ่งคือการเลือกใช้หมวดสินค้าที่เหมาะสม สินค้าบางชนิดอาจจะอยู่ได้หลายหมวดสินค้า นักขายก็ต้องวิเคราะห์ว่าหมวดไหนเป็นหมวดที่ขายดีที่สุด ต้องพยายามหลีกเลี่ยงหมวดสินค้าที่ไม่ตรงกับสินค้าของเรา เช่น ขายพลอยแต่ไปลิสต์ในหมวดกางเกงยีน เพราะนอกจากจะไม่มีคนสนใจสินค้าแล้ว ยังมีโอกาสที่ลิสต์จะถูกลบด้วย

สมมุติว่าเราเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่ดี เลือกหมวดสินค้าที่เหมาะสม จนทำให้ผู้ซื้อค้นพบสินค้าของเราถึง 200 คน แต่อย่าลืมว่าสินค้าของเราจะปะปนไปกับสินค้าของคู่แข่ง ท้ายที่สุดแล้วอาจจะมีคนที่ “มองเห็น” สินค้าของเราจริงๆ เพียงแค่ 100 คน เราจึงต้องเพิ่มโอกาสการมองเห็นสินค้าของเราให้มากขึ้น

เคยเปิดอ่านนิตยสารประเภท Classifieds ที่มีประกาศขายสินค้ามือสองไหมค่ะ? ถ้าลองสังเกตดู จะพบว่าสินค้าที่ลงประกาศแบบไม่เสียเงิน จะมีพื้นที่ในการแสดงรายละเอียดของสินค้าที่เล็กมาก และดูติดกันเป็นพรืดไปหมด ขณะที่สินค้าที่จ่ายเงินค่าโฆษณาให้กับสำนักพิมพ์ จะได้รับพื้นที่โฆษณาที่ใหญ่กว่า และดูโดดเด่นสะดุดตากว่า

การขายของบน eBay ก็เช่นเดียวกัน ถ้าคุณจ่ายเงินเพื่อซื้อ Listing Upgrade เพิ่ม สินค้าของคุณก็จะดูโดดเด่นขึ้นได้ Listing Upgrade ที่นิยมใช้กันเป็นปกติก็คือ Gallery เพื่อใช้แสดงตัวอย่างรูปภาพสินค้าให้ผู้ซื้อมองเห็นก่อนที่จะตัดสินใจคลิ กเข้าไปดูรายละเอียด ส่วน Listing Upgrade อื่นๆ ก็ต้องดูว่าสภาพการแข่งขันภายในหมวดสินค้าที่คุณอยู่นั้นเป็นอย่างไร เช่น หมวดสินค้าพลอยจะมีการใช้ Listing Upgrade ค่อนข้างเยอะ เพื่อทำให้ผู้ซื้อรู้สึกสะดุดตา เนื่องจากหมวดนี้มีการแข่งขันกันสูง ขณะที่ หมวดสินค้าอื่นๆ อาจจะไม่ค่อยใช้ Listing Upgrade กันมากนัก

นอกจากนี้ การเลือกวันเวลาในการลิสต์สินค้าก็เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ซื้อมองเห็นสินค้าของคุณได้ ถ้าคุณเลือกวันเวลาที่มีผู้ซื้อเยอะ ก็อาจจะทำให้มีคนมองเห็นสินค้าของคุณเยอะ แต่ถ้าช่วงเวลานี้มีคู่แข่งเยอะ บางทีสินค้าของคุณอาจจะกลืนไปกับสินค้าของคู่แข่งได้เหมือนกัน หรือถ้าคุณเลี่ยงไปใช้ช่วงเวลาที่คนไม่นิยมใช้ สินค้าของคุณอาจจะโดดเด่นขึ้นมาได้ แต่ก็อาจจะไม่มีคนดูสินค้าได้เช่นกัน

พออ่านแล้วหลายคนอาจจะคิดว่ายุ่งยาก แต่ebay ก็มีอะไรที่ที่ง่าย ถ้าตั้งใจจริงเงินจะมากองอยู่ตรงหน้า...

มาต่อกันเลยนะค่ะ สำหรับข้อดีของ ebay
ปัญหาหลักๆของคนที่เข้ามาทำ ebay ใหม่ๆคือไม่รู้จะขายอะไรดี แต่คนที่สินค้าเป็นของตัวเองแล้ว คุณเป็นผู้ที่มีแววว่าจะประสบความสำเร็จไปครึ่งนึงแล้วค่ะ แต่สำหรับดิฉันเริ่มจาก 0 เลยค่ะไม่มีอะไรทั้งนั้น แต่ดิฉันว่าเราโชคดีนะค่ะที่เกิดในเมืองไทยเพราะอะไรของบ้านเราก็ขายได้ทั้ง นั้นเหละค่ะขอให้ถูกกฏของ ebay ก็พอ หันมาทำสายขาวกันจะดีกว่าค่ะจะได้ขายกันยาวๆ ของในบ้านเราถูกกว่าที่อื่นมากค่ะบางทีรวมค่าจัดส่งแล้วยังถูกว่า ของที่ต่างชาติขายแบบ free shipping เลย ใช้จุดขายตรงนี้ให้เป็นประโยชน์ค่ะ ถือคติขายได้กำไรต่อชิ้นน้อยแต่ขายได้ปริมาณมาก ดีกว่าหวังกำไรสูงแต่ขายไม่ออกนะค่ะ จากประสบการณ์ของดิฉันที่ฝรั่งเศส เชื่อไหมค่ะว่าเงาะกับกล้วยที่นำเข้าจากบ้านเราแล้วไปขายในบ้านเขา เขาขายกันเป็นลูกครับ แล้วลูกดำๆเขียวๆด้วย เขาขายกันที่ลูกละ 1 ยูโรเป็นเงินบ้านเราก็ประมาณ 50 บาท เริ่มมองเห็นอะไรขึ้นมาลางๆแล้วใช่ไหมค่ะ
ดิฉันเป็นคนนึงที่ตอนแรกอยากจะมี website ขายของทาง internet เป็นของตัวเองแต่หลังจากศึกษาแล้วจึงรู้ว่ายังตัวเองยังมีความรู้ตรงนี้น้อย เพราะว่า
1. จะต้องมีความรู้ในการใช้โปรแกรมเขียน website พอสมควรหรือไม่อย่างนั้นต้องจ้างเขาเขียนแล้วดูแลระบบให้ซึ่งมีค่าใช้จ่ายพอ สมควร อันนี้ตกไปเลยค่ะเพราะดิฉันจะไม่ลงทุนขนาดนั้นและดิฉันก็ขี้เกียจจะมานั่งศึกษา โปรแกรม html ด้วย
2. จะต้องมีค้าใช้จ่ายในการเช่า hosting และ domain เป็นของตัวเองตกปีละประมาณ 3000 บาท อันนี้ตกไปเช่นกันด้วยประเด็นเดิมคือไม่ชอบลงทุนค่ะ
3. จะต้องมีความรู้ภาษาอังกฤษดีพอสมควรเพื่อจะเขียนบรรยาย web ของเราและแนะนำ web ของเราให้ดูน่าเชื่อถือ ยกเว้นเราจะเป็น บริษัท ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วผมว่าตรงนี้เป็นปํญหาของคนไทยแท้อย่างเราๆเลยค่ะ
4. สุดท้ายพอทำ web เสร็จจะมีคนเข้ามาดู web เราหรือเปล่าก็ไม่รู้ จะขายได้เปล่าก็ยังไม่แน่ใจ แต่มีค่าใช้จ่ายแน่นอนอยู่แล้ว :-\

วันนี้ดิฉันได้มาเจอ ebay ที่เข้ามาลบจุดอ่อนของดิฉันตรงนี้ ทำให้ดิฉันเริ่มมีความหวังขึ้นมาอีกค่ะ เพราะ
1. ไม่ต้องมานั่งเขียนโปรแกรมให้วุ่นวายก็ขายของ ทาง internet ได้
2. ไม่มีค่าใช้จ่ายการสมัคร อันนี้ชอบมากๆค่ะ
3. ขายสินค้าให้ต่างชาติได้ ตรงนี้เหละที่ดิฉันต้องการ
4. มีกลุ่มลูกค้ารองรับอยู่แล้ว ไม่ต้องไปหาให้วุ่นวาย
5. ภาษาอังกฤษ snakeๆ fishๆ ก็ขายได้เพราะมีคนในบอร์ดนี้คอยช่วย :'(
6. มีคนเข้ามาดูสินค้าเราแน่นอน
ข้อดีคือมีของฟรีให้เราโปรโมทสินค้าเราอีกมากมาย :)

ถ้าตังใจทำไม่ว่าจะยากแค่ไหน ความสำเร็จก็มาถึง


ความคิดเห็น
ยุ่งยากค่ะเพราะหลายขั้นตอนแต่ถ้าเรียนรู้และทำเป้นแล้วจะเป้นเรื่องง่ายค่ะ
อย่างที่โบราณบอกไว้ไม่มีใครเป็นตั้งแต่เกิดทุดสิ่งทุกอย่างเกิดจากการเรียนรู้และการพัฒนา แต่การค้าขายบนebayนั้นถ้าตั้งใจประสบความสำเร็จแน่ค่ะ

ebay คืออะไร ??


What's eBay?

eBay คือชื่อเว็บและเครื่องหมายการค้าของ เว็บ www.ebay.com ซึ่งเป็นแหล่งประมูลออนไลน์ระดับโลก จัดตั้งมาตั้งแต่ปี 1995 เดือนกันยายน จนปัจจุบันก็ได้เข้าตลาดหุ้นไปนานแล้ว ตาม slogan ของเว็บไซต์ "The World's Online Marketplace" ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ มีผู้คนแวะเวียนมาจับจ่ายวันละเป็นหลายหมื่นหลายแสนคน ในทุกๆ วินาที เลยที่เดียว มีสินค้าจบการประมูล และ ปิดการขายมากกว่า ล้านชิ้น ทุกๆ วินาที เช่นกัน จากทุกหมวดหมู่สินค้า ซึ่งมีกว่า พันหมวดหมู่ย่อย

eBay คือ สัญลักษณ์ที่จดทะเบียนไว้ มีลิขสิทธิ์ และใช้ที่ถูกต้องคือ ตัว B ตัวใหญ่ เพียงตัวเดียว อันนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไม อาจจะเป็นเพราะว่า ให้ทราบว่า มันคือ electronics bay หล่ะมั๊งค่ะ ตอนนี้เอง eBay มีโลคอลไซต์ ซึ่งก็คือ eBay ประจำประเทศต่างๆ และเป็นภาษาท้องถิ่น มากกว่า 30 ไซต์ และตอนนี้ในหน้าภาษาไทยก็ได้เกิดขึ้นแล้ว


eBay เป็นเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1995 ด้วยการใช้โมเดลทางธุรกิจที่แตกต่างจากเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซอื่นๆ กล่าวคือ eBay ทำธุรกิจแบบ C2C โดยเป็นตัวกลางที่เชื่อมผู้ขายกับผู้ซื้อเข้าด้วยกัน ทำให้ eBay ไม่ต้องสต็อกสินค้าและประสบปัญหาต้นทุนสินค้าคงคลังสูงเหมือนที่ Amazon เป็น

Ebay เป็นหนึ่งใน e-business ที่สามารถสร้างกำไรได้มาก ความสำเร็จในธุรกิจการประมูลสินค้าแปลกใหม่มีมานานถึง 50 ปี วัตถุประสงค์แรกคือคุณนาย Pam Omidyar ซึ่งเป็นนักสะสมขวด Pez (Pez candy) เป็นต้นคิดเพื่อการประมูลซื้อขายขวดผ่านอินเตอร์เน็ต เมื่อเธออธิบายแนวคิดให้แฟนหนุ่มฟัง คือ คุณ Pierre Omidyar (ปัจจุบันคือสามี) เขาเป็นผู้ทำให้เกิด E-bus ในการประมูลออนไลน์ในเวลาต่อมา

Solution

ปี 1995 Omidyars สร้างบริษัทที่เรียกว่า Auction Web และเปลี่ยนชื่อมาเป็น Ebay และเริ่มกลายมาเป็นธุรกิจการประมูลออนไลน์ มีสินค้ามากถึง 500,000 รายการในแต่ละวัน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของอิเล็กทรอนิกส์ออนไลน์

เริ่มต้นของธุรกิจ eBay คือ การจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานเพื่อดำเนินการแบบ C2C ไม่มีนักขาย แต่ละขั้นตอนใช้เทคโนโลยีช่วยในการจัดการ

บนเว็บ Ebay ผู้คนสามารถซื้อหรือขายในสิ่งที่ต้องการ บริษัทจะเก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้า และบวกค่าคอมมิชชั่นจากยอดขาย ซึ่งค่าธรรมเนียมขึ้นอยู่กับลักษณะและจำนวนการนำเสนอสินค้าของผู้ขายที่ โดยมีค่าธรรมเนียมจะมากขึ้น ถ้าผู้ขายต้องการให้สินค้าอยู่หมวดสินค้าพิเศษ และค่าใช้จ่ายจะสูงขึ้นอีกถ้าต้องให้ปรากฎบนโฮมเพจหน้าแรกภายใต้หัวข้อ Feature Item และการทำตัวหนาเพื่อให้เด่นชัดเจนก็ต้องจ่ายเพิ่ม

ขั้นตอนการประมูลเริ่มจาก

1. ผู้ขายกรอกข้อมูลเพื่อลงทะเบียนกับเว็บไซต์
2. และรายละเอียดข้อมูลของสินค้า
3. และผู้ขายจะต้องกำหนดราคาขั้นต่ำที่สามารถขายได้ (Minimum Bid) ถ้าผู้ซื้อรู้สึกว่าราคาสินค้าสูงอาจจะไม่ bid ผู้ขายอาจจะต้องเสนอราคาขายขั้นต่ำ (reserve price) ซึ่งเป็นราคาขายที่ผู้ขายยอมรับได้
4. เมื่อการประมูลเสร็จสิ้น ผู้ซื้อและผู้ขายต้องตกลงวิธีการชำระเงิน การขนส่ง การรับประกัน และอื่นๆ ที่จำเป็น eBay มีหน้าที่เป็นผู้ให้บริการระหว่างคู่ค้าทั้งสองให้สามารถดำเนินธุรกิจไปได้ ด้วยดี eBay ไม่มีค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาคลังสินค้า หรือการขนส่ง การดำเนินการ และบริการอื่นๆ เหมือนกับธุรกิจอื่นเช่น Amazon.com และผู้ค้าปลีกรายอื่น ที่จำเป็นต้องจัดเตรียม eBay เป็นเว็บที่ให้บริการทั้งบุคคลทั่วไป และ SMEs



ปี 2001

eBay เริ่มประมูลสินค้างานศิลปะโดยร่วมมือกับเว็บไซต์ icollector.com ของ UK และธุรกิจประมูล sothebys.com ซึ่งมีเมนูหลักบนโฮมเพจของเว็บไซต์ eBay และประสบภาวะขาดทุน ในปี 2003 May ทำให้ eBay และ Sothebys ไม่แยกการประมูลออนไลน์ และเริ่มเน้นการโปรโมทการประมูลของ Sothebys ผ่านเทคโนโลยี eBay ทำให้ทั้งคู่สามารถสร้างกำไรมากขึ้นในสินค้าศิลปะ และวัตถุโบราณ ปัจจุบันมุ่งเน้นให้การสนับสนุนธุรกิจประมูลของ Sothebys

นอกจากนี้ eBay ได้ขยายการกิจการไปทั่วโลก อนุญาติให้มีการซื้อขายระหว่างประเทศ และมีเว็บไซต์ในแต่ละประเทศมากถึง 25 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็น USA, Canada, France, Sweden, Brazil, UK, Australia, Sigapore และ Japan มีผู้ซื้อมากกว่า 150 ประเทศ ซึ่ง eBay ยังให้ SMEs สามารถซื้อและขายสินค้าใหม่ และนำออกตลาดแบบ B2B หรือ B2C

eBay มีสนง. มากกว่า 60 แห่ง ใน USA ลูกค้าสามารถค้นสินค้ากับสถานที่ที่ใกล้และสะดวกลูกค้าเพื่อ Browse ผ่านหน้าจอที่สนใจ และเพื่อนัดเจอกัน เพื่อทำธุรกรรม นอกจากนี้ บางแห่ง เช่น eBay Motors เป็นสินค้าพิเศษเฉพาะเว็บไซต์ การซื้อขายสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา และรวมถึงสื่อไร้สาย

ปี 2002

การชำระเงิน eBay มีระบบความปลอดภัย ปัจจุบันผู้ขายสามารถป้องกันจากปัญหาเช็คเด้ง และการทุจริตจากการใช้ Credit Card ระบบมีการป้องกัน Credit Card chargeback การการันตี e-checks ซึ่งเป็นกระบวนการที่ปลอดภัย และรักษาความเป็นส่วนตัว

หลังจากนั้นไม่กี่ปี eBay ประสบความสำเร็จในการดำเนินการและ มีสมาชิกให้ความไว้วางใจถึง 10 ล้านคน eBay ตัดสินใจปรับเปลี่ยนรูปแบบกับลูกค้าจำนวนมาก ด้วย e-tailing ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้ากำหนดราคาตายตัว สิ่งนี้อาจจะเป็นเหตุให้เว็บไซต์ Amazon.com ตัดสินใจปรับปรุง และทำธุรกิจประมูล หรือมันอาจเป็นแนวคิดหลักในการเปลี่ยนแปลง โดยปี 2003 eBay ดำเนินการเฉพาะเว็บไซต์พิเศษ

ต่อมา eBay Motor ได้เปิดดำเนินการ half.com เป็นเว็บมีชื่อเสียงในการลดราคาของ e-tailer โดยปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ eBay และ Paypal.com (P2P payment) บริษัทชำระเงิน ซึ่งเป็นส่วนลักษณะพิเศษของ eBay เพื่อให้บุคคลทั่วไปและบริษัทเช่าร้านค้าเพื่อขายสินค้าหรือดำเนินการ ประมูล ในปี 2002

eBay เริ่มทำธุรกิจ e-marketplace ที่เว็บ www.ebaybusiness.com ซึ่งเป็นเว็บที่นำมาซึ่งทุกอย่างของธุรกิจบน eBay เพื่อเป็นหนึ่งเดียวของเป้าหมาย เป็นเรื่องง่ายสำหรับ SMEs เพื่อค้นหาเครื่องมือ และสินค้าที่ต้องการ

Results

ผลกระทบของ eBay ใน e-Bus คือ ความคิดลึกซื้ง เป็นผู้ค้นพบข้อจำกัดของรูปแบบการประมูลแบบ Offline และปรับเป็นรูปแบบออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ต ที่สามารถเข้าถึงโดยผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีจากบ้านได้ทุกมุมโลก รูปแบบธุรกิจนี้นำมาซึ่งกำไร และช่วยโปรโมตชุมชน ซึ่งทำให้นักขายกลับมาอีกครั้ง

eBay เป็น Auction Site ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นชุมชนขนาดใหญ่มีผู้ลงทะเบียนมากถึง 50 ล้านคน ในปี 2002 สถานะการเงินของบริษัท ๆ มีรายการขายมากถึง $14.7 พันล้าน

เป็นการพบความจริงที่ว่า สถานที่เดียวที่ผู้คนสามารถทำธุรกิจ Online ได้มากกว่า Off-line คือ การประมูล เมื่อเปรียบเทียบกับ e-Tailing พบว่า e-Tailing มีมูลค่าน้อยกว่า 2% จากการขาย Retailing ทั้งหมด

eBay ใช้กลยุทธ์ Transaction Advantage ในการดำเนินธุรกิจ ด้วยการทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้ขายกับผู้ซื้อ เช่นเดียวกับที่ห้างสรรพสินค้าเป็น แต่ eBay สามารถลดต้นทุนทั้ง process cost และ transaction cost ของทั้งผู้ขายและผู้ซื้อได้ต่ำกว่าที่ห้างสรรพสินค้าทำได้

ผู้ขายมี ต้นทุนค่าวางขายสินค้าผ่าน eBay ที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับการวางขายที่ห้างสรรพสินค้า ไม่มีต้นทุนค่าขนส่งสินค้าไปที่ห้าง สามารถเรียกเก็บเงินจากลูกค้าได้ทันทีโดยไม่ต้องให้เครดิตเหมือนการขายผ่าน ห้าง และผู้ขายสามารถควบคุมปริมาณและประเภทสินค้าที่ต้องการขายได้ตลอดเวลา

ด้าน ผู้ซื้อก็มี transaction cost ที่ต่ำกว่าการซื้อที่ห้าง เช่น ผู้ซื้อไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปห้าง ผู้ซื้อสามารถค้นหาสินค้าที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วโดยใช้ระบบ search ของ eBay ผู้ซื้อสามารถค้นหาสินค้าที่มีราคาต่ำที่สุดได้โดยสั่ง sort ตามราคาสินค้า และผู้ซื้อสามารถสอบถามรายละเอียดของสินค้าได้จากผู้ขายโดยตรงผ่าน e-mail

การ ที่ eBay สามารถเก็บค่าขายสินค้าจากผู้ขายในราคาที่ต่ำกว่าห้างสรรพสินค้าได้ เนื่องจาก eBay ใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตที่มีต้นทุนที่ต่ำกว่าค่าพื้นที่ของ ห้างสรรพสินค้ามาก ถ้าห้างสรรพสินค้าต้องการวางสินค้าจำนวนหนึ่งล้านชิ้น อาจจะต้องใช้พื้นที่เท่ากับสนามฟุตบอล แต่ eBay สามารถวางสินค้าหนึ่งล้านชิ้นได้ในเซิร์ฟเวอร์เพียงเครื่องเดียวที่ใช้ พื้นที่ขนาดเล็กๆ ในการวางเครื่อง



ความคิดเห็น
อย่างไรก็ตาม การซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตมีข้อด้อยที่สำคัญคือเรื่องความน่าเชื่อถือของ ผู้ขายและผู้ซื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโมเดลแบบ C2C ที่ eBay ใช้ ซึ่งผู้ขายและผู้ซื้อต่างไม่รู้จักตัวตนของอีกฝ่าย ทำให้ไม่แน่ใจว่าจะถูกคู่ค้าของตนโกงหรือไม่ แต่จากปรัชญาธุรกิจของ eBay ที่กล่าวว่า "ธุรกิจของเราเริ่มต้นจากความเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนเป็นคนดี" ทำให้ eBay พัฒนาระบบ Feedback ที่เป็นเสมือนการการันตีว่าเป็นสมาชิกสุจริต และการจูงใจให้สมาชิกใช้ระบบชำระเงิน PayPal เพื่อป้องกันการทุจริต