ในวิกฤติน้ำมันแพงจนกระเป๋าแห้งแบบนี้ นักช้อปที่ชอบเดินทางจับจ่าย คงต้องคิดหนักกันหน่อย การช้อปปิ้งออนไลน์คงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่นักช้อปหันมาใช้บริการ แม้วิธีการซื้อของออนไลน์จะไม่ใช่วิธีการแบบใหม่เพราะมีมาตั้งนานแล้ว แต่CEOของebay ได้วิเคราะห์ว่าด้วยวิกฤติเศรษฐกิจแบบนี้ การซื้อขายออนไลน์จะเติบโตขึ้น และได้รับความนิยมสูงขึ้นยังแน่นอน การซื้อขายในโลกไซเบอร์ไม่เพียงแต่ประหยัดเวลา สินค้ามากมายทั่วทุกมุมโลกต่างวางขายตรงหน้าง่ายๆแค่เพียงคลิ๊ก !!
ธุรกิจ eBay มีลักษณะคล้ายๆ กับกรวยกรองที่ปากด้านบนกว้าง ส่วนก้นด้านล่างแคบ เราต้องพยายามใส่ input ลงไปในปากกรวยให้มากที่สุด เพียงเพื่อจะมี output ออกมาทางก้นกรวยเพียงหนึ่งเดียว ซึ่งก็คือคนที่ชนะประมูลสินค้านั่นเอง
สิ่งแรกที่นักขายจะต้องทำก็คือ การทำให้มีคนค้นพบสินค้าที่ตัวเองลิสต์ขึ้นไปให้มากที่สุด เปรียบเสมือนการใส่ input ลงไปในปากกรวยให้มากๆ เพื่อที่จะได้มีคนหลุดเข้ามาถึงก้นกรวยซึ่งก็คือการตัดสินใจประมูลสินค้าให้ มากขึ้น เมื่อมีผู้ประมูลมาก ราคาของสินค้าก็จะขยับตัวสูงขึ้นเอง
วิธีการทำให้สินค้าถูกค้นพบมากที่สุดก็คือการเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่หัวข้อสินค้าให้เหมาะสม เนื่องจาก eBay ให้พื้นที่ใส่หัวข้อสินค้าเพียง 55 ตัวอักษร จึงต้องใช้พื้นที่นี้ให้คุ้มค่ามากที่สุด ผู้ขายจะต้องพยายามหาคีย์เวิร์ดที่อธิบายสินค้าของเราได้ดีที่สุด และต้องเป็นคีย์เวิร์ดที่ลูกค้าส่วนใหญ่เลือกใช้เวลาต้องการค้นหาสินค้าด้วย
อีกวิธีหนึ่งคือการเลือกใช้หมวดสินค้าที่เหมาะสม สินค้าบางชนิดอาจจะอยู่ได้หลายหมวดสินค้า นักขายก็ต้องวิเคราะห์ว่าหมวดไหนเป็นหมวดที่ขายดีที่สุด ต้องพยายามหลีกเลี่ยงหมวดสินค้าที่ไม่ตรงกับสินค้าของเรา เช่น ขายพลอยแต่ไปลิสต์ในหมวดกางเกงยีน เพราะนอกจากจะไม่มีคนสนใจสินค้าแล้ว ยังมีโอกาสที่ลิสต์จะถูกลบด้วย
สมมุติว่าเราเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่ดี เลือกหมวดสินค้าที่เหมาะสม จนทำให้ผู้ซื้อค้นพบสินค้าของเราถึง 200 คน แต่อย่าลืมว่าสินค้าของเราจะปะปนไปกับสินค้าของคู่แข่ง ท้ายที่สุดแล้วอาจจะมีคนที่ “มองเห็น” สินค้าของเราจริงๆ เพียงแค่ 100 คน เราจึงต้องเพิ่มโอกาสการมองเห็นสินค้าของเราให้มากขึ้น
เคยเปิดอ่านนิตยสารประเภท Classifieds ที่มีประกาศขายสินค้ามือสองไหมค่ะ? ถ้าลองสังเกตดู จะพบว่าสินค้าที่ลงประกาศแบบไม่เสียเงิน จะมีพื้นที่ในการแสดงรายละเอียดของสินค้าที่เล็กมาก และดูติดกันเป็นพรืดไปหมด ขณะที่สินค้าที่จ่ายเงินค่าโฆษณาให้กับสำนักพิมพ์ จะได้รับพื้นที่โฆษณาที่ใหญ่กว่า และดูโดดเด่นสะดุดตากว่า
การขายของบน eBay ก็เช่นเดียวกัน ถ้าคุณจ่ายเงินเพื่อซื้อ Listing Upgrade เพิ่ม สินค้าของคุณก็จะดูโดดเด่นขึ้นได้ Listing Upgrade ที่นิยมใช้กันเป็นปกติก็คือ Gallery เพื่อใช้แสดงตัวอย่างรูปภาพสินค้าให้ผู้ซื้อมองเห็นก่อนที่จะตัดสินใจคลิ กเข้าไปดูรายละเอียด ส่วน Listing Upgrade อื่นๆ ก็ต้องดูว่าสภาพการแข่งขันภายในหมวดสินค้าที่คุณอยู่นั้นเป็นอย่างไร เช่น หมวดสินค้าพลอยจะมีการใช้ Listing Upgrade ค่อนข้างเยอะ เพื่อทำให้ผู้ซื้อรู้สึกสะดุดตา เนื่องจากหมวดนี้มีการแข่งขันกันสูง ขณะที่ หมวดสินค้าอื่นๆ อาจจะไม่ค่อยใช้ Listing Upgrade กันมากนัก
นอกจากนี้ การเลือกวันเวลาในการลิสต์สินค้าก็เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ซื้อมองเห็นสินค้าของคุณได้ ถ้าคุณเลือกวันเวลาที่มีผู้ซื้อเยอะ ก็อาจจะทำให้มีคนมองเห็นสินค้าของคุณเยอะ แต่ถ้าช่วงเวลานี้มีคู่แข่งเยอะ บางทีสินค้าของคุณอาจจะกลืนไปกับสินค้าของคู่แข่งได้เหมือนกัน หรือถ้าคุณเลี่ยงไปใช้ช่วงเวลาที่คนไม่นิยมใช้ สินค้าของคุณอาจจะโดดเด่นขึ้นมาได้ แต่ก็อาจจะไม่มีคนดูสินค้าได้เช่นกัน
พออ่านแล้วหลายคนอาจจะคิดว่ายุ่งยาก แต่ebay ก็มีอะไรที่ที่ง่าย ถ้าตั้งใจจริงเงินจะมากองอยู่ตรงหน้า...
มาต่อกันเลยนะค่ะ สำหรับข้อดีของ ebay
ปัญหาหลักๆของคนที่เข้ามาทำ ebay ใหม่ๆคือไม่รู้จะขายอะไรดี แต่คนที่สินค้าเป็นของตัวเองแล้ว คุณเป็นผู้ที่มีแววว่าจะประสบความสำเร็จไปครึ่งนึงแล้วค่ะ แต่สำหรับดิฉันเริ่มจาก 0 เลยค่ะไม่มีอะไรทั้งนั้น แต่ดิฉันว่าเราโชคดีนะค่ะที่เกิดในเมืองไทยเพราะอะไรของบ้านเราก็ขายได้ทั้ง นั้นเหละค่ะขอให้ถูกกฏของ ebay ก็พอ หันมาทำสายขาวกันจะดีกว่าค่ะจะได้ขายกันยาวๆ ของในบ้านเราถูกกว่าที่อื่นมากค่ะบางทีรวมค่าจัดส่งแล้วยังถูกว่า ของที่ต่างชาติขายแบบ free shipping เลย ใช้จุดขายตรงนี้ให้เป็นประโยชน์ค่ะ ถือคติขายได้กำไรต่อชิ้นน้อยแต่ขายได้ปริมาณมาก ดีกว่าหวังกำไรสูงแต่ขายไม่ออกนะค่ะ จากประสบการณ์ของดิฉันที่ฝรั่งเศส เชื่อไหมค่ะว่าเงาะกับกล้วยที่นำเข้าจากบ้านเราแล้วไปขายในบ้านเขา เขาขายกันเป็นลูกครับ แล้วลูกดำๆเขียวๆด้วย เขาขายกันที่ลูกละ 1 ยูโรเป็นเงินบ้านเราก็ประมาณ 50 บาท เริ่มมองเห็นอะไรขึ้นมาลางๆแล้วใช่ไหมค่ะ
ดิฉันเป็นคนนึงที่ตอนแรกอยากจะมี website ขายของทาง internet เป็นของตัวเองแต่หลังจากศึกษาแล้วจึงรู้ว่ายังตัวเองยังมีความรู้ตรงนี้น้อย เพราะว่า
1. จะต้องมีความรู้ในการใช้โปรแกรมเขียน website พอสมควรหรือไม่อย่างนั้นต้องจ้างเขาเขียนแล้วดูแลระบบให้ซึ่งมีค่าใช้จ่ายพอ สมควร อันนี้ตกไปเลยค่ะเพราะดิฉันจะไม่ลงทุนขนาดนั้นและดิฉันก็ขี้เกียจจะมานั่งศึกษา โปรแกรม html ด้วย
2. จะต้องมีค้าใช้จ่ายในการเช่า hosting และ domain เป็นของตัวเองตกปีละประมาณ 3000 บาท อันนี้ตกไปเช่นกันด้วยประเด็นเดิมคือไม่ชอบลงทุนค่ะ
3. จะต้องมีความรู้ภาษาอังกฤษดีพอสมควรเพื่อจะเขียนบรรยาย web ของเราและแนะนำ web ของเราให้ดูน่าเชื่อถือ ยกเว้นเราจะเป็น บริษัท ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วผมว่าตรงนี้เป็นปํญหาของคนไทยแท้อย่างเราๆเลยค่ะ
4. สุดท้ายพอทำ web เสร็จจะมีคนเข้ามาดู web เราหรือเปล่าก็ไม่รู้ จะขายได้เปล่าก็ยังไม่แน่ใจ แต่มีค่าใช้จ่ายแน่นอนอยู่แล้ว :-\
วันนี้ดิฉันได้มาเจอ ebay ที่เข้ามาลบจุดอ่อนของดิฉันตรงนี้ ทำให้ดิฉันเริ่มมีความหวังขึ้นมาอีกค่ะ เพราะ
1. ไม่ต้องมานั่งเขียนโปรแกรมให้วุ่นวายก็ขายของ ทาง internet ได้
2. ไม่มีค่าใช้จ่ายการสมัคร อันนี้ชอบมากๆค่ะ
3. ขายสินค้าให้ต่างชาติได้ ตรงนี้เหละที่ดิฉันต้องการ
4. มีกลุ่มลูกค้ารองรับอยู่แล้ว ไม่ต้องไปหาให้วุ่นวาย
5. ภาษาอังกฤษ snakeๆ fishๆ ก็ขายได้เพราะมีคนในบอร์ดนี้คอยช่วย :'(
6. มีคนเข้ามาดูสินค้าเราแน่นอน
ข้อดีคือมีของฟรีให้เราโปรโมทสินค้าเราอีกมากมาย :)
ถ้าตังใจทำไม่ว่าจะยากแค่ไหน ความสำเร็จก็มาถึง
ความคิดเห็น
ยุ่งยากค่ะเพราะหลายขั้นตอนแต่ถ้าเรียนรู้และทำเป้นแล้วจะเป้นเรื่องง่ายค่ะ
อย่างที่โบราณบอกไว้ไม่มีใครเป็นตั้งแต่เกิดทุดสิ่งทุกอย่างเกิดจากการเรียนรู้และการพัฒนา แต่การค้าขายบนebayนั้นถ้าตั้งใจประสบความสำเร็จแน่ค่ะ
วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น